เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน

มีคนเคยถามผมว่าตลาดหุ้นคืออะไร ผมนั่งคิดว่าจะตอบอย่างไร เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ สำหรับผู้ไม่เคยลงทุนหุ้นมาก่อนเลย หากตอบตามทฤษฎี ตลาดหุ้น คือ ตลาดกลางในการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากผู้มีเงินส่วนเกิน (ผู้ลงทุนหรือผู้ออมเงิน ซึ่งก็คือพวกเรานี่เอง) ไปสู่ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนไปขยายธุรกิจ แต่ผมมีความรู้สึกว่าคำตอบตามทฤษฎีนี้ไม่ได้ให้คำตอบที่สมบูรณ์เท่าไรในความคิดผม ผมจึงตอบคนที่ถามผมกลับไปว่า ตลาดหุ้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางการเงินที่เกิดขึ้นมาในโลก ไม่ต่างจากที่คนเราสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน ในประเทศจีน พีระมิด ในประเทศอียิปต์ อนุสรณ์สถาน ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย หรือสนามกีฬาโคลอสเซียม ใจกลางกรุงโรมประเทศอิตาลี เพราะหากไม่มีตลาดหุ้นเราคงไม่มีคนที่รวยที่สุดในโลกจากการลงทุนในหุ้นเป็นอาชีพเพียงอย่างเดียวชื่อ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) ผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูง หรือเราคงไม่มีปรมาจารย์ด้านการลงทุนแบบ เบนจามินเกรแฮม ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ และอีกหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้น หากไม่มีตลาดหุ้น ผมและอีกหลายๆ คนจะมีโอกาสได้อย่างไรในการเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต หรือเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ผมจะสร้างโรงงาน โรงพยาบาล โรงแรม โรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ เองได้อย่างไรหรือผมจะเปิดห้างสรรพสินค้าที่มีเครือข่ายสาขามากมายทั่วประเทศหรือทั่วโลกได้อย่างไร และหากผมสนใจหลายๆ ธุรกิจพร้อมๆ กัน ผมจะเปิดได้ทุกธุรกิจหรือเปล่า แต่ตลาดหุ้นสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ทั้งหมด การลงทุนในหุ้นก็คือการที่เราจะได้เป็นเจ้าของธุรกิจจริงๆ เพียงแต่เราเป็นเจ้าของธุรกิจที่จ้างผู้บริหารมืออาชีพมาบริหารงานให้ และจ้างพนักงานมาทำงานแทนเรา หน้าที่ของเราก็มีเพียงนั่งดูคนของเราทำงาน ไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อย และคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งก็คือเงินปันผลที่เกิดขึ้นจากกำไร และหากโชคดีเราก็จะมีกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นด้วย นั่นคงคล้ายกับเราปลูกต้นไม้ แล้วคอยดูต้นไม้เติบโต คอยตกแต่งกิ่ง เพื่อผลสุดท้ายคือให้ร่มเงาเรา หรือออกดอกออกผลให้เราใช้ประโยชน์ในระยะยาว